เมนู

ป่าเป็นต้น อันไม่มีใครหวงแหนก็ดี ภิกษุควรให้นำสิ่งของนั้นทั้งหมด มาแล้ว
ฉันได้ตามสบาย ไม่ควรจะรังเกียจ.

[พระสุทินน์ออกบวชได้ 8 ปี นางทาสีจำอวัยวะบางส่วนได้]


บทว่า หตฺถานํ ความว่า นางทาสีของญาติ ได้ถือเอาเค้ามือทั้งสอง
ของพระสุทินน์ผู้น้อมบาตรเข้าไปเพื่อรับภิกษา ตั้งแต่ข้อมือไป.
บทว่า ปาทานํ ความว่า นางทาสีของญาติ ได้ถือเอาเค้าเท้าทั้งสอง
จำเดิมแต่ชายผ้านุ่งไป.
บทว่า สรสฺส ความว่า เมื่อพระสุทินน์ เปล่งวาจาว่า แนะน้องหญิง
ถ้าของนั้น ดังนี้เป็นต้น นางทาสีของญาติก็จำสุ้มเสียง (ของท่าน) ได้.
สองบทว่า นิมิตฺตํ อคฺคเหสิ ความว่า นางทาสีของญาติได้ถือเอา
คือจำได้ หมายความว่า กำหนดอาการที่ตนเคยสังเกตได้ในคราวที่ท่านยังเป็น
คฤหัสถ์.
จริงอยู่ พระสุทินน์บวชในพรรษาที่ 12 ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ใน
พรรษาที่ 20 ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้เข้าไปบิณฑบาตยังตระกูลญาติตนเอง
มีพรรษาได้ 8 ตั้งแต่บวชมา. เพราะเหตุนั้น นางทาสีของญาติคนนั้น เห็น
ท่านแล้วจึงจำไม่ได้ แต่ถือเอาเค้า (นิมิต) ได้ด้วยประการฉะนี้.
หลายบทว่า สุทินฺนสฺส มาตรํ เอตทโวจ ความว่า นางทาสี
ของญาติ ไม่อาจจะพูดคำเป็นต้นว่า ท่านเจ้าขา ! ท่านหรือหนอคือพระสุทินน์
ผู้เป็นนายของดิฉัน ดังนี้ กับบุตรชายผู้เป็นนาย (ของตน) ซึ่งเข้าบวช
แล้วด้วยความเคารพยิ่ง จึงรีบกลับเข้าไปในเรือน แล้วได้แจ้งข่าวนี้กะมารดา
ของพระสุทินน์.
ศัพท์ว่า ยคฺเฆ เป็นนิบาต ลงในอรรถแห่งคำบอกเล่า.